รอยสิวเกิดจากอะไร?
รอยสิว (Acne Scar) คือรอยแผลเป็นที่หลงเหลือจากการเป็นสิวบนใบหน้า หลังจากที่สิวหายแล้วจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ เราอาจเรียกร่องรอยของการเป็นสิวว่าเป็นขั้นตอนการฟื้นฟูสภาพผิว จึงปรากฏให้เห็นเป็นรอยสิวในรูปแบบต่าง ๆ บนผิวหนัง เช่น รอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็นนูน หรือหลุมสิวไว้บนใบหน้า แต่กว่าที่รอยสิวจะหายไปจากใบหน้าของเราอาจต้องใช้เวลานาน เราจึงต้องรักษาและป้องกันรอยสิวตั้งแต่เนิ่น ๆ คือตั้งแต่หลังจากการเกิดสิว ก็จะช่วยให้รอยสิวหายเร็วขึ้น เมื่อรอยสิวหายไปความมั่นใจก็กลับมาเร็วขึ้น
การป้องกันและวิธีลดรอยสิว
รอยสิวที่เกิดขึ้นบนใบหน้าจะหายช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและประเภทของสิวที่เป็น สิวที่ทิ้งแผลเป็นรุนแรงหรือมีลักษณะเป็นรอยสิว อาจไม่หายได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่จะค่อย ๆ เลือนลางไปตามเวลา รวมถึงการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องด้วยการใช้ครีมลดรอยสิว เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ปกปิดร่องรอย รวมถึงวิธีป้องกันและลดรอยสิวแบบอื่น ๆ ที่จะช่วยให้รอยสิวหายไปจากใบหน้าได้เร็วขึ้น
1. วิตามินช่วยลดรอยสิว
การทานวิตามินช่วยลดรอยสิว เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทาครีมหรือทายา แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานจึงจะเห็นผล อย่างน้อย 1-2 เดือน และต้องทานอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผล โดยวิตามินที่นิยมใช้ในการช่วยลดรอยสิวที่รู้จักกัน ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี แต่ก่อนจะเลือกซื้อวิตามินควรหาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการและไม่เกิดผลข้างเคียง
2. เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
ผักและผลไม้ส่วนใหญ่มักมีวิตามินที่มีประโยชน์กับผิว และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยจัดการปัญหาสิวได้อีกด้วย การเลือกรับประทานผลไม้ช่วยให้เกิดประโยชน์กับร่างกายจากภายใน แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถนำผลไม้ เช่น มะละกอ มะเขือเทศ ว่านหางจระเข้ น้ำผึ้ง แตงกวา เหล่านี้ นำมาปั่นแล้วพอกหน้า หรือฝานแล้ววางลงบนบริเวณที่มีรอยสิว ก็จะช่วยรอยสิวที่เป็นปัญหาจางหายไปได้เร็วขึ้น และยังเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้าไปในตัว
3. หลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือบีบสิว
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเกิดรอยสิวนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการแกะ เกา สัมผัสใบหน้าจนเกิดการอักเสบ หรือแม้แต่การบีบสิวที่อาจทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้า หากไม่ต้องการให้เกิดร่องรอยเหล่านั้น ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าเพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ และอาจทำให้เกิดรอยแผลแม้ว่าสิวจะหายไปแล้วก็ตา
4. หลีกเลี่ยงแสงแดด
แสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวถูกทำร้าย ไม่ว่าจะเป็นรอยแดงที่เกิดจากการเผาไหม้ของแดด ฝ้า กระต่าง ๆ นอกจากนี้แล้วแสงแดดยังเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้รอยดำจากสิวมีสีเข้มขึ้น สีผิวไม่สม่ำเสมอ เราจึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อช่วยปกป้องผิวและลดรอยสิวให้จางลง
5. เลือกใช้ผลิตภัณ์ลดรอยสิว
กว่ารอยสิวจะหายไปจากใบหน้าจะหายไปเอง อาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน ๆ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี การใช้ครีมลดรอยสิวเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้รอยสิวเหล่านั้นจางหายไปเร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยสิวที่เป็นด้วยเช่นกัน และการใช้ครีมลดสิวก็ต้องใช้เวลาและความต่อเนื่อง แล้วใบหน้าของเราก็จะกลับมาขาวใส ไร้รอยสิวได้อีกครั้ง
เทคนิคใช้ครีมลดรอยสิว ครีมลดรอยแดง ลดจุดด่างดำ ให้เห็นผลดีอย่างเร่งด่วน แนะนำโดยเภสัชกร
ประวัติเภสัชกร
เภสัชกรหญิงลักษณา ทรัพย์ชูกุล
ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ลา โรช-โพเซย์
วุฒิการศึกษา
- วิทยาศาตรบัณฑิต และวิทยาศาตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- เภสัชศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
- ประสบการณ์ด้านเครื่องมือแพทย์ (เครื่องเลเซอร์)
- ประสบการณ์งานวิจัยการทดสอบทางคลินิกของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
- ประสบการณ์ด้านผลิตภัณฑ์เวชสำอางมากกว่า 10 ปี
เทคนิคการเลือกใช้ครีมลดรอยสิวครีมลดรอยแดง
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสาระสำคัญในการลดเลือนเม็ดสี (melanins) เช่น สารลดการผลิตเม็ดสี (ทำงานที่จุดเริ่มต้นของการผลิตเม็ดสีที่ทำให้เกิดรอยสิว) สารลดการอักเสบ (ที่จะช่วยลดรอยแดงจากการอักเสบ แล้วยังช่วยลดปัจจัยกระตุ้นการผลิตเม็ดสี) สารช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิว (เพื่อผลัดซากเซลล์ผิวที่มีเม็ดสี เผยผิวกระจ่างใส)
- หากเป็นผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย (acne-prone skin) ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยลดปัญหาสิวด้วย เนื่องจากการรักษารอยสิวต้องทำร่วมกับการไม่เพิ่มปัญหาเก่า (สิว) แล้วจัดการแก้ไขแค่ร่องรอยสิวที่หลงเหลือจากปัญหาสิว จึงจะทำให้การลดเลือนรอยสิวเห็นผลได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) เพื่อไม่เพิ่มปัญหาสิวที่จะนำไปสู่การเกิดรอยสิว
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ หรือแนะนำโดยแพทย์ผิวหนัง
- หากเป็นผิวแพ้ง่ายก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่าย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง
เทคนิคทาครีมลดรอยสิว ครีมลดรอยแดง ลดจุดด่างดำอย่างสม่ำเสมอ
เทคนิคใช้ครีมลดรอยสิว ลดจุดด่างดำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ควรทาครีมลดรอยสิวเป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน รอยสิวจึงจะเริ่มจางลงเทคนิคทาครีมลดรอยสิว ครีมลดรอยแดง ลดจุดด่างดำในปริมาณที่เหมาะสม
เทคนิคทาครีมลดรอยสิว ลดจุดด่างดำในปริมาณที่เหมาะสม ควรเริ่มทาครีมลดรอยสิวในปริมาณน้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นตามอาการระคายเคือง โดยทาครีมลดรอยสิวเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยสิวเท่านั้นวิธีเลือก สกินแคร์ลดรอยสิว หรือ ครีมลดรอยสิว สำหรับผิวที่มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย โดยเภสัชกร
วิธีเลือกครีมลดรอยสิว สำหรับผิวที่มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย เนื่องจากผิวที่มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย มักมีเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอ ทำให้ผิวไวต่อการระคายเคืองจากปัจจัยต่างๆ เช่น สารเคมี มลภาวะ แสงแดด เป็นต้น ดังนั้นการเลือกครีมลดรอยสิวสำหรับปัญหาผิวดังกล่าว จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้- ควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน ซิลิโคน เป็นต้น
- ควรเลือกครีมลดรอยสิวที่มีค่า pH อยู่ระหว่าง 5.5-6.5 ซึ่งเป็นค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิวธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
- ควรเลือกครีมลดรอยสิวที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่อุดตันรูขุมขน
แนะนำ ครีมลดรอยสิว EFFACLAR DUO+M
EFFACLAR DUO+M ผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาผิวจาก ลาโรช โพเซย์ ช่วยดูแลอย่างครอบคลุมพร้อมเสริมประสิทธิภาพในการดูแลปัญหาผิวครีมลดเลือนรอยสิว ผลิตภัณฑ์ลดปัญหาการอุดตันบนผิว พร้อมป้องกันการเกิดสิวซ้ำ **เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ครีมมีเนื้อสัมผัสแบบเจลครีมที่ให้ความชุ่มชื้น แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ
วิธีใช้
เริ่มต้นด้วยการบีบครีมลดรอยสิว EFFACLAR DUO+M ขนาดเท่าเม็ดถั่วเฮเซลนัท แล้วถูวอร์มเนื้อครีมเบา ๆ ในมือ เพื่อช่วยให้การการซึมซาบลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น จากนั้นค่อย ๆ นวดอย่างเบามือลงบนหน้าผากและเป็นจังหวะบนใบหน้า
ส่วนประกอบ
- ไนอาซีนาไมด์ (NIACINAMIDE) - ช่วยปลอบประโลมผิว
- โปรซีหลาด - ลดเลือนรอยดำรอยแดงจากสิว
- อควา โพเซย์ ฟิลลิโฟมิส (AQUA POSAE FILIFORMIS) & แมนโนส (MANNOSE) - ช่วยคืนความสมดุลความชุ่มชื้นสู่ผิว
คุณสมบัติ
- ลดการเกิดปัญหาสิว รวมถึงลดเลือนรอยสิว
- ป้องกันไม่ให้เกิดสิวซ้ำ
- จัดการรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิว
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างกับรายละเอียดของการเกิดรอยสิว และวิธีป้องการการเกิดรอยสิว รวมถึงวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ลดรอยสิว หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางและเป็นตัวช่วยที่ทำให้ได้รู้จักที่มาที่ไปของปัญหาสิว และวิธีป้องกันที่จะทำให้การเกิดรอยสิวจะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป
อ้างอิงจาก
- Drakaki et al. 2014 doi: 10.3389/fenvs.2014.00011
- Krutmann J et al. J Dermatol Sci 2014;76(3):163-8.
- https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/33991337/
- https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0269749121004322
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5986265